พูดคุยกับลูกค้าบ่อยๆ ผ่านเฟซบุ๊ค การพูดคุยกับลูกค้าบ่อยๆ จะช่วยทำให้หน้าเฟซบุ๊คไม่หยุดนิ่ง แต่ต้องหลีกเลี่ยงการพูดอยู่คนเดียวโดยไม่ฟังคนอื่นๆ ไม่เน้นขายของมากเกินไป พูดถึงสิ่งที่คนกำลังสนใจในตอนนั้น และสื่อสารให้ถูกจังหวะและโอกาส และลองพูดคุยปฏิสัมพันธ์กับคนที่เข้ามาในหน้าของเรา ช่วยเหลือในสิ่งที่สามารถช่วยได้ หรือใช้ส่วนของ "พูดคุย (Discussion)" ตั้งคำถามกับลูกค้าว่า ใช้สินค้า
ไปแล้วเป็นอย่างไรบ้างและเนื่องจากสมาชิกในเฟซบุ๊คFacebook Page โดยใส่เนื้อหาและข้อความที่ต้องการสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าได้ทันที ข้อความเหล่านี้จะเข้าไปในส่วนของ "ข้อความ (Message)" ของสมาชิกแต่ละคน คล้ายๆ กับการส่ง Email Marketing ไปหาสมาชิก ซึ่งข้อดีของระบบนี้คือ สามารถส่งถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแน่นอน วิธีการใช้งาน กดที่ Edit Page แล้วไปที่ Marketing แล้วเลือก Send an Update
ไปแล้วเป็นอย่างไรบ้างและเนื่องจากสมาชิกในเฟซบุ๊คFacebook Page โดยใส่เนื้อหาและข้อความที่ต้องการสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าได้ทันที ข้อความเหล่านี้จะเข้าไปในส่วนของ "ข้อความ (Message)" ของสมาชิกแต่ละคน คล้ายๆ กับการส่ง Email Marketing ไปหาสมาชิก ซึ่งข้อดีของระบบนี้คือ สามารถส่งถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแน่นอน วิธีการใช้งาน กดที่ Edit Page แล้วไปที่ Marketing แล้วเลือก Send an Update
อาจไม่ได้มีโอกาสกลับมาหน้าของเราทุกๆ วัน ดังนั้น การเรียกและสื่อสารกับลูกค้าสามารถทำได้ง่ายๆ จากบริการส่งข้อความหาสมาชิกทั้งหมดจาก
กระตุ้นสมาชิกพูดถึงสินค้าในทางที่ดี
การกระตุ้นให้คนในเฟซบุ๊คพูดถึงสินค้าและบริการของเราในทางที่ดี จะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้คนอื่นๆ ที่ยังไม่เคยใช้สินค้าต้องการใช้ตามด้วย เพราะเดี๋ยวนี้ คนจะเชื่อสิ่งที่คนอื่นพูดถึงสินค้าและบริการมากกว่าการเห็นตามโฆษณาทั่วไป ซึ่งถ้าโดนด่าจะกลายเป็นดาบสองคมทันที ดังนั้น เราต้องให้ความสำคัญกับการสื่อสารกับลูกค้าบนเฟซบุ๊คให้มากๆ
ขณะเดียวกัน การจัดกิจกรรม หรือเล่นเกมกับกลุ่มลูกค้าบนเฟซบุ๊ค ทำให้เขามีโอกาสมาร่วมกิจกรรม ส่วนเกมที่เล่นถ้าจะให้ง่ายที่สุด เช่น การตั้งคำถามในหน้าเฟซบุ๊คแล้วให้คนที่ตอบอันดับที่เท่าไรในหัวข้อนั้นๆ เป็นผู้ที่ได้ของรางวัลไป ซึ่งจะช่วยดึงดูดให้คนอยากเข้ามาร่วมเล่นบนเฟซบุ๊คของคุณอย่างต่อเนื่อง ส่วนของรางวัลที่ได้อาจจะเป็นของ หรือคูปองใช้บริการหรือสินค้าของธุรกิจคุณ อาจจะเป็นฟรี หรือส่วนลด 10-60% เท่ากับเป็นการดึงลูกค้าจากเฟซบุ๊ค (online) ไปยังหน้าร้านหรือธุรกิจของคุณ (Offline) ได้อย่างดียิ่ง
การเชื่อมโยงหน้าเฟซบุ๊คคุณไปยังหน้าสินค้าอีคอมเมิร์ซ โดยนำข้อมูลสินค้าและบริการมาเล่าและพูดถึงในหน้าเฟซบุ๊ค ควรเป็นการเล่าว่าสินค้านี้คืออะไร ดีอย่างไร ไม่ใช่เน้นแต่จะขายสินค้าเพียงอย่างเดียว และที่สำคัญที่สุด เมื่อพูดถึงสินค้าชิ้นไหนแล้ว อาจใส่ลิงค์ไปยังหน้าของสินค้าชิ้นนั้นๆ เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงการเปิดโอกาสให้สามารถซื้อสินค้าชิ้นนั้นๆ ได้ทันที ทั้งนี้ เว็บไซต์ต้องรองรับระบบการซื้อขายออนไลน์ด้วย ลองดูตัวอย่างของระบบเฟซบุ๊คที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบซื้อสินค้าออนไลน์ได้ทันทีของ TARAD.com ที่ http://apps.facebook.com/taraddotcom
ลงโฆษณาผ่านเฟซบุ๊ค แอดส์
ผู้ที่มีเฟซบุ๊คแต่ยังมีแฟนหรือสมาชิกไม่มาก การเลือกลงโฆษณากับเฟซบุ๊คดูเป็นวิธีการที่ง่ายที่จะดึงลูกค้าเข้ามาได้ทันที แต่จะมีค่าใช้จ่ายในการทำ โดยเฟซบุ๊คคิดค่าใช้จ่ายเป็นต่อครั้งการคลิก (CPC - Cost Per Click) หรือต่อครั้งการแสดง (CPM) โดยเราสามารถกำหนดค่าใช้จ่ายได้อย่างชัดเจนว่าจะจ่ายต่อวันเท่าไร เริ่มต้นได้ที่ $1 (30 บาท) และสามารถบริหารทุกอย่างเองได้หมด โดยชำระเงินค่าโฆษณาผ่านบัตรเครดิต ดูเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/ads
ผู้ที่มีเฟซบุ๊คแต่ยังมีแฟนหรือสมาชิกไม่มาก การเลือกลงโฆษณากับเฟซบุ๊คดูเป็นวิธีการที่ง่ายที่จะดึงลูกค้าเข้ามาได้ทันที แต่จะมีค่าใช้จ่ายในการทำ โดยเฟซบุ๊คคิดค่าใช้จ่ายเป็นต่อครั้งการคลิก (CPC - Cost Per Click) หรือต่อครั้งการแสดง (CPM) โดยเราสามารถกำหนดค่าใช้จ่ายได้อย่างชัดเจนว่าจะจ่ายต่อวันเท่าไร เริ่มต้นได้ที่ $1 (30 บาท) และสามารถบริหารทุกอย่างเองได้หมด โดยชำระเงินค่าโฆษณาผ่านบัตรเครดิต ดูเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/ads
สิ่งสุดท้ายที่สำคัญที่สุด ก็คือ "การวัดผล (Measurement)"
ว่า การสื่อสาร หรือการตลาดที่ทำผ่านเฟซบุ๊คได้ผลหรือไม่ วิธีการง่ายๆ คือ ติดตั้งระบบเก็บสถิติและเก็บข้อมูลเว็บไซต์ อย่างเช่น Google Analytics ในเว็บไซต์ และวัดผลว่ามีลูกค้ามาเข้ามาที่เว็บไซต์จากเฟซบุ๊คกี่คน และมียอดขายเกิดขึ้นจากหน้าเว็บไซต์เพิ่มมากขึ้นแค่ไหน หรือจะลองถามการสุ่มถามลูกค้าที่ซื้อว่า เห็นสินค้านี้จากที่ไหนก็อาจจะเป็นแนวทางที่ง่ายที่สุดที่ทำได้
ว่า การสื่อสาร หรือการตลาดที่ทำผ่านเฟซบุ๊คได้ผลหรือไม่ วิธีการง่ายๆ คือ ติดตั้งระบบเก็บสถิติและเก็บข้อมูลเว็บไซต์ อย่างเช่น Google Analytics ในเว็บไซต์ และวัดผลว่ามีลูกค้ามาเข้ามาที่เว็บไซต์จากเฟซบุ๊คกี่คน และมียอดขายเกิดขึ้นจากหน้าเว็บไซต์เพิ่มมากขึ้นแค่ไหน หรือจะลองถามการสุ่มถามลูกค้าที่ซื้อว่า เห็นสินค้านี้จากที่ไหนก็อาจจะเป็นแนวทางที่ง่ายที่สุดที่ทำได้
เห็นไหมครับ จากวิธีการที่กล่าวมาทั้งหมด จะช่วยทำให้สามารถนำเฟซบุ๊คมาช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจได้ทันที และยิ่งเฟซบุ๊คมีแฟนหรือสมาชิกมากเท่าไร โอกาสที่จะสามารถสื่อสารและเข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมากๆ ก็มีด้วยเช่นกัน นั่นหมายถึง โอกาสการขายสินค้าก็มีมากด้วย แต่อย่างที่เตือนเอาไว้ การขายของผ่านเฟซบุ๊คอย่าไปยัดเยียดหรือเน้นการขายมากเกินไป ควรเป็นรูปแบบละมุนละม่อมค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปเหมือนเพื่อนบอกเพื่อนมากกว่า ถึงจะมีโอกาสสำเร็จได้ ทำจริงแล้วได้ผลหรือไม่ก็มาเล่าให้ฟังกันได้นะครับ
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
Tags : keyword,facebopok,google,attrction,aimstar, amway, business, mlm, network,sex,thaiflood,marketing, prima life time, freedom, monney, agel, smartlift, primafan, nipon, niponlive,niponfans, ธุรกิจ, เครือข่าย, เอ็มแอลเอ็ม, รายได้, สุขภาพ, ลดนำหนัก ,เงิน, ดี, ความสุข, อาชีพ, ยั่งยืน, มั่นคง,สวยงาม,สินค้า,ประโยชน์,ดี,เสริมอาหาร,สมาร์ ลิฟ,ขายตรง,ธุรกิจเครือข่าย,น้ำท่วม,จุดอ่อน,
