eXTReMe Tracker

คำนำ

ตลอดเวลาที่ผม ได้เข้าสู่ธุรกิจเครือข่าย ได้มีโอกาสเรียนรู้ถึงการสร้างระบบธุรกิจเครือข่าย ได้พบเจอบุคคลที่ประสบความสำเร็จมากมาย บางคนไม่มีประสบการณ์และจบการศึกษาถึงระดับปริญญา แต่บุคคลเหล่านั้นกลับประสบความสำเร็จและสามารถสร้างความมั่งคั่ง มั่นคง ได้จากธุรกิจเครือข่าย แต่ในขณะเดียวผมก็ได้พบเห็นบุคคลทีไม่ประสบความสำเร็จอีกมากมายเช่นกัน สาเหตุอาจเกิดจากบางคนเข้าสู่ธุรกิจแบบไม่มีความรู้ หรือมีความรู้แต่ขาดความเข้าใจในระบบธุรกิจเครือข่ายอย่างถ่องแท้ พอเวลาเข้ามาทำจึงประสบกับความล้มเหลว ทำให้บางคนมีอคติทีไม่ดีต่อธุรกิจนี้ และมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อธุรกิจว่าหลอกลวง เสียเงินเสียเวลา แต่ในความเป็นจริงธุรกิจเครือข่ายนั้น กลับมีเสน่ห์ สวยงาม และมีความมหัศจรรย์อยู่ในตัวอย่างเต็มเปี่ยม

เพียงแต่ท่าน... พร้อมที่จะเปิดใจเรียนรู้อย่างจริงจังหรือไม่?

amprimalifetime.blogspot.com นี้ ถูกจัดทำขึ้นเพราะต้องการจะรวบรวมบทความ วิธีคิด หลักการ การทำธุรกิจเครือข่ายและประสบการณ์ความรู้ต่างๆจากผู้ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ เพื่อให้ผู้ที่กำลังทำธุรกิจเครือข่ายหรือผู้ที่กำลังมองหาในธุรกิจเครือข่าย ได้ศึกษาหาความรู้ ก่อนจะเข้าสู่อาณาจักรของธุรกิจ เพื่อนำไปประยุกต์หรือปฏิบัติให้เกิดความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องชัดเจน พร้อมกับการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่สนใจได้อย่างดีเยี่ยม เพื่อเป็นแนวทางการนำไปสู่เส้นชัยแห่งความสำเร็จในธุรกิจของท่านต่อไป....

...ด้วยความปรารถนาดี... ^_^

วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

กินผักอย่างไรให้ปลอดภัย

ผักกินแล้วดี มีประโยชน์ แต่รู้ไหมคะ ผักบางชนิดก็มีสารที่อาจเกิดผลเสียกับร่างกายได้เหมือนกัน การทำความรู้จักกับสารเหล่านี้จึงไม่ควรมองข้ามเพื่อที่คุณจะได้กินผักอย่างปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแท้จริง  


อย่ากินดิบ
- ถั่วฝักยาว ทำให้ท้องอืด ท้องขึ้น และผายลมมีกลิ่นแรง(มาก) เนื่องจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ จากการย่อยเมล็ดและเปลือกของถั่วฝักยาวโดยแบคทีเรียในสำไส้ใหญ่



- หน่อไม้ มันสำปะหลัง มีสารไซยาไนด์ในรูป "ไกลโคไซด์" ทำให้คลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย มึนงง หมดสติ และอาจรุนแรงถึงขั้นหัวใจหยุดทำงาน

- กะหล่ำปลี บรอกโคลี มีสารกอยโทรเจน (goitrogen) ขัดขวางการทำงานของต่อไทรอยด์ ทำให้ร่างกายนำไอโอดีนในเลือดไปใช้ได้น้อยและเกิดโรคคอพอกได้ในระยะยาว แต่ผลระยะสั้น การกินกะหล่ำปลีดิบบ่อยๆ อาจทำให้ท้องอืดเพราะอาหารไม่ย่อย  
กินให้ถูกวิธี 
- กระเทียม มีสารอัลลีซีน (allicin) หากกินตอนท้องว่าง อาจจะระคายเคืองกระเพาะอาหาร คลื่นไส้อาเจียน และปวดท้อง นอกจากนี้ยังอาจกระตุ้นไมเกรนอีกด้วย

- ผักกวางตุ้ง ผักกาด หากต้มนานเกินจะเกิดสารไทโอไซยาเนต (thiocyanate)
ทำให้ท้องเสีย ความดันต่ำ กล้ามเนื้ออ่อนเพลียได้

- มันฝรั่ง มีสารโซลานิน (solanine) ส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้ปวดศีรษะ กระตุ้นไมเกรน ควรเลือกมันฝรั่งที่มีสีเหลืองปนน้ำตาลหากเปลี่ยนเป็นสีเขียวหรือเริ่มแตกหน่อไม่ควรนำมาบริโภคเพราะมีพิษสูง กินแต่พอดี


- แครอท หากกินมากเกินไปร่างกายจะเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนเป็นวิตามินเอไม่ทัน จนสะสมตามชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวเป็นสีเหลือง เรียกว่า "โรคแคโรทีนีเมีย" ควรหยุดกินแครอทสักพัก สีผิวจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

- มะระ มีสารซาโปนิน (saponin) และอัลคาลอยด์ ชื่อโมโมดิซิน (momodicine) ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ คลื่นไส้อาเจียน ที่สำคัญหญิงตั้งครรภ์ไม่ควรดื่มน้ำมะระคั้นเพราะอาจแท้งได้

- พริกไทยดำ มีสารอัลคาลอยด์ ไพเพอริน เมื่อทำปฏิกิริยากับไนโตรเจนจะเกิดสารกลุ่มเอนไนโตรโซไพเพอริดีน (N nitroso piperidine) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง เมื่อกินติดต่อกันเป็นประจำจึงเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง แต่การกินนิดหน่อยเพื่อเป็นส่วนประกอบของอาหาร เครื่องชูรส โดยทั่วไปไม่มีอันตราย คนป่วยห้ามกิน


- ผักโขม มีสารออกซาเลต (oxalate) ทำให้คนที่มีแนวโน้มจะเป็นโรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะเป็นโรคนี้ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังพบสารออกซาเลตในหน่อไม้ ใบชะพลู และผักพื้นบ้างบางชนิด

- มะเขือเทศสีเขียว มีสารโซลานิน (solanine) ทำให้คนแพ้ปวดหัวข้างเดียว มีแผลในปาก ผื่นคันที่ผิวหนังหลังกินมะเขือเทศ

- หน่อไม้ฝรั่ง มีสารพิวริน (purine) สูง ทำให้คนป่วยโรคเกาต์ปวดข้อเพราะสารพิวรินจะกระตุ้นให้เกลือของกรดยูริกในกระแสเลือดเข้าไปเกาะตามข้อมากขึ้น แม้ผักบางชนิดจะมีสารที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกาย แต่หมายความว่าต้องกินผักชนิดนั้นในปริมาณมาก วันละเป็นกิโลกรัมขึ้นไป และกินผักชนิดเดิมซ้ำๆ ทุกวัน การกินผักในปริมาณที่เหมาะสมและหลากหลายชนิดโดยทั่วไปจึงไม่เป็นอันตราย


ที่มา :   นิตยสาร HEALTH & CUISINE
http://primafan.sntclub.com

รบกวน ติ-ช ม เพื่อนำไปปรับปรุงครับ