eXTReMe Tracker

คำนำ

ตลอดเวลาที่ผม ได้เข้าสู่ธุรกิจเครือข่าย ได้มีโอกาสเรียนรู้ถึงการสร้างระบบธุรกิจเครือข่าย ได้พบเจอบุคคลที่ประสบความสำเร็จมากมาย บางคนไม่มีประสบการณ์และจบการศึกษาถึงระดับปริญญา แต่บุคคลเหล่านั้นกลับประสบความสำเร็จและสามารถสร้างความมั่งคั่ง มั่นคง ได้จากธุรกิจเครือข่าย แต่ในขณะเดียวผมก็ได้พบเห็นบุคคลทีไม่ประสบความสำเร็จอีกมากมายเช่นกัน สาเหตุอาจเกิดจากบางคนเข้าสู่ธุรกิจแบบไม่มีความรู้ หรือมีความรู้แต่ขาดความเข้าใจในระบบธุรกิจเครือข่ายอย่างถ่องแท้ พอเวลาเข้ามาทำจึงประสบกับความล้มเหลว ทำให้บางคนมีอคติทีไม่ดีต่อธุรกิจนี้ และมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อธุรกิจว่าหลอกลวง เสียเงินเสียเวลา แต่ในความเป็นจริงธุรกิจเครือข่ายนั้น กลับมีเสน่ห์ สวยงาม และมีความมหัศจรรย์อยู่ในตัวอย่างเต็มเปี่ยม

เพียงแต่ท่าน... พร้อมที่จะเปิดใจเรียนรู้อย่างจริงจังหรือไม่?

amprimalifetime.blogspot.com นี้ ถูกจัดทำขึ้นเพราะต้องการจะรวบรวมบทความ วิธีคิด หลักการ การทำธุรกิจเครือข่ายและประสบการณ์ความรู้ต่างๆจากผู้ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ เพื่อให้ผู้ที่กำลังทำธุรกิจเครือข่ายหรือผู้ที่กำลังมองหาในธุรกิจเครือข่าย ได้ศึกษาหาความรู้ ก่อนจะเข้าสู่อาณาจักรของธุรกิจ เพื่อนำไปประยุกต์หรือปฏิบัติให้เกิดความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องชัดเจน พร้อมกับการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่สนใจได้อย่างดีเยี่ยม เพื่อเป็นแนวทางการนำไปสู่เส้นชัยแห่งความสำเร็จในธุรกิจของท่านต่อไป....

...ด้วยความปรารถนาดี... ^_^

วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554

แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป

ได้ฟังเรื่องเล่าประสบการณ์ดีๆ ของคนบางคน ทำให้อดไม่ได้ที่จะเก็บมาแบ่งปัน เพื่อนผมมันเล่าให้ฟังว่า ได้ไปงานสวดศพผู้ชายวัย 80 กว่า ที่รู้จักมายาวนานกว่า 30 ปี ไม่ใช่ญาติ แต่สนิทกันรักใคร่เสมือนญาติก่อนเสียชีวิตไม่กี่วัน แกสั่งลูกและภรรยา แบบคนไม่ครั่นคร้ามความตายว่า ไม่ต้องบอกใครให้วุ่นวาย อย่าเศร้า อย่าร้องไห้ ทุกคนต้องมีวันนี้ เพียงแต่แกอยู่หัวแถว เลยต้องไปก่อน ลูกเมียก็ทำตามคำสั่ง สวดแค่สามวัน งานสวด 3 คืน มีคนมาคืนละ 14 คนคือ เมีย ลูก หลาน เขย สะใภ้ และเจ้าเพื่อนของผม ซึ่งเป็นคนนอก เป็นงานศพที่มีคนไปร่วมงานน้อยที่สุดเท่าที่เคยไปสวดมา วันฝังมีเพิ่มเป็น 17 คน 3 คนที่เพิ่มมา คนหนึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่เคยคุยด้วยเกือบทุกเย็น อีกคนเป็นแม่ค้าล็อตเตอรี่ที่เคยยืมเงินแล้วไม่มีสตังค์จ่าย เลยเอาล็อตเตอรี่ทยอยผ่อนใช้หนี้แทนเงิน งวดละ 2 ใบคนหนึ่ง และคนสุดท้ายเป็นหญิงที่ผู้ตายเคยผูกปิ่นโตทุกมื้อเย็นทั้งสามคนบอกว่า เกือบมาไม่ทัน เคราะห์ดีที่แวะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่บอกว่า เสียชีวิตไปแล้ว 3 วัน

หลังฌาปนกิจเสร็จ คนผ่านไปมากระซิบถามเจ้าหน้าที่วัดว่า เจ้าของงานมีเงินจ่ายค่าทำศพหรือเปล่า เพราะคงไม่เคยเห็นงานศพที่มีคนน้อยแบบนี้ จริงๆ แล้วผู้ตายเป็นคนค่อนข้างมีสตางค์ แต่มีมุมมองชีวิตที่เรียบง่าย ที่ปฏิบัติชีวิตแบบไม่ปรารถนาให้ใครเดือดร้อน แม้กระทั่งวันสุดท้ายของชีวิต การมีโอกาสได้

พูด ได้คุยกับแกตามวาระโอกาสตลอด 30 ปี ทำให้ได้แง่คิดดีๆ มาใช้ในการดำรงชีวิตมากมาย วันหนึ่ง แกรู้ว่ามีคนขโมยยกชุดกอล์ฟของเจ้าเพื่อนของผมไปสองชุด ตกหลายแสนกว่าบาท แกปลอบใจว่า  “ของที่หายเป็นของฟุ่มเฟือยของเรา แต่มันอาจเป็นของจำเป็นสำหรับลูกเมียครอบครัวเขา คิดซะว่าได้ทำบุญ จะได้ไม่ทุกข์”

แกมีวิธีคิด “เท่ๆ” แบบที่คิดไม่ถึงอีก เป็นต้นว่า สุขและทุกข์อยู่รอบตัวเรา อยู่ที่ว่า เราจะเลือกหยิบเลือกคว้าอะไร คงเป็นเพราะเขาเลือกคว้าแต่ความสุข จึงทำให้มีใจเป็นสุข พอที่จะแบ่งปันเผื่อไปให้คนอื่น ช่วงปีสุดท้ายของชีวิตเขาต่อสู้กับโรคชรา เบาหวาน หัวใจ ความดัน เกาต์ และไตทำงานเพียง 5 เปอร์เซ็นต์โดยไม่ปริปากบ่น แถมยังสามารถให้ลูกชายขับรถพาเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยที่ตัวเองต้องหิ้วถุงปัสสาวะไปด้วยตลอดเวลาเนื่องจากไตไม่ทำงาน ปัสสาวะเองไม่ได้ 6 เดือนสุดท้ายของชีวิตต้องนอนโรงพยาบาล 3 วัน นอนบ้าน 4 วันสลับกันไป เวลาลูกหลานหรือเพื่อนของลูกไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล แกมีแรงพูดติดต่อกันไม่เกิน 10 นาที แต่ 10 นาทีที่พูด มีแต่เรื่องสนุกสนาน เรียกรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะจากคนไปเยี่ยมไข้ ทุกคนพูดตรงกันว่า “คุณตาไม่เห็นเหมือนคนป่วยเลย ตลกเหมือนเดิม”   พอแขกกลับ ลูกหลานถามว่า ทำไมคุยแต่เรื่องตลก เขาตอบว่า “ถ้าคุยแต่เรื่องเจ็บป่วย วันหลังใครเขาจะอยากมาเยี่ยมอีก”

แกเป็นคนชอบคุยกับผู้คน ไม่ว่าจะอยู่บนเตียงคนไข้ หรืออยู่บนรถแท็กซี่ บ่อยครั้งที่นั่งรถถึงหน้าบ้านแล้ว แต่สั่งให้โชเฟอร์ขับวนรอบหมู่บ้าน เพราะยังคุยไม่จบเรื่อง แล้วจ่ายเงินตามมิเตอร์!  4 เดือนสุดท้ายของชีวิต หมอที่รักษาโรคไตให้แกมาสิบกว่าปี แนะนำให้แกพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ให้แข็งแรงแล้วค่อยกลับบ้าน แต่อยู่ได้ 4 วัน แกก็วิงวอนหมอว่า ขอกลับบ้าน แต่หมอไม่ยอม แกเลยพูดกับหมอด้วยความสุภาพว่า “ขอให้ผมกลับบ้านเถอะ ผมอยากฟังเสียงนกร้อง คุณหมอไม่รู้หรอกว่าคนคิดถึงบ้านมันเป็นอย่างไร เพราะพอเสร็จงานหมอก็กลับบ้าน


หมอได้ฟังแล้วหมดทางสู้ ยอมให้คนไข้กลับบ้าน แต่กำชับให้มาตรวจตรงตามเวลานัดทุกครั้ง 1 เดือนก่อนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต แกสูญเสียการควบคุมอวัยวะของร่างกายเกือบทั้งหมด เคลื่อนไหวได้อย่างเดียวคือ กะพริบตา แต่หมอบอกว่าสมองของแกยังดีมาก เวลาลูกเมียพูดคุยด้วยต้องบอกว่า “ถ้าได้ยินพ่อกะพริบตาสองที” แกกะพริบตาสองทีทุกครั้ง! เห็นแล้วทั้งดีใจและใจหาย แกยังรับรู้แต่พูดไม่ได้ นี่กระมังที่เรียกว่า ถูกขังในร่างของตนเอง 10 วันก่อนพลัดพราก ภรรยากระซิบข้างหูว่า “พ่อสู้นะ” แกไม่กะพริบตาซะแล้ว ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้สองเดือนเคยตอบว่า “สู้” แกสู้กับสารพัดโรคด้วยความเข้าใจโรค สู้ชนิดที่หมอออกปากว่า “คุณลุงแกสู้จริงๆ” มันทำให้เจ้าเพื่อนผมถึงกลับน้ำตาคลอ นึกถึงประโยคที่แกพูดกับลูกเมื่อสี่เดือนก่อนว่า “โรคภัยมันเอาร่างกายของพ่อไปแล้ว อย่าให้มันเอาใจของเราไปด้วย"


ชายชราที่จากไป ทิ้งแง่คิดดีๆ ที่สอนให้เรารู้ว่า.. เราเกิดมาพร้อมกับจิตใจบริสุทธิ์ และมันสมองมหัศจรรย์ ที่จะสามารถเรียนรู้ แยกแยะเรื่องดีๆ และสิ่งร้ายๆ ในชีวิต จงใช้โอกาสดีๆ ที่ร่างกายและจิตใจของเรา ยังทำอะไรๆ ได้อย่างที่สมองสั่ง จงเรียนรู้และสร้างประโยชน์สุขให้กับตนเอง และผู้อื่นอย่างพอเพียง  
หากทุกๆ ครั้งที่เรียนรู้ เราล้ม เราพลาด อาจจะรู้สึกท้อบ้างในบางที แม้ไม่มีกำลังกายที่จะลุกในทันที.. แต่ขอให้มีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป ถ้าเราเรียนรู้... ก็จะทำให้เราพบว่า  “การล้มหรือพลาดครั้งต่อไป เราจะไม่เจ็บเท่าเดิม”...    

ที่มา พิษณุ นิลกลัด
Tags : keyword,facebopok,google,attrction,aimstar, amway, business, mlm, network,sex,thaiflood,marketing, prima life time, freedom, monney, agel, smartlift, primafan, nipon, niponlive,niponfans, ธุรกิจ, เครือข่าย, เอ็มแอลเอ็ม, รายได้, สุขภาพ, ลดนำหนัก ,เงิน, ดี, ความสุข, อาชีพ, ยั่งยืน, มั่นคง,สวยงาม,สินค้า,ประโยชน์,ดี,เสริมอาหาร,สมาร์ ลิฟ,ขายตรง,ธุรกิจเครือข่าย,น้ำท่วม,จุดอ่อน,ธุรกิจ mlm,MLM.ALPHA NUMBER 1,neo life

รบกวน ติ-ช ม เพื่อนำไปปรับปรุงครับ