eXTReMe Tracker

คำนำ

ตลอดเวลาที่ผม ได้เข้าสู่ธุรกิจเครือข่าย ได้มีโอกาสเรียนรู้ถึงการสร้างระบบธุรกิจเครือข่าย ได้พบเจอบุคคลที่ประสบความสำเร็จมากมาย บางคนไม่มีประสบการณ์และจบการศึกษาถึงระดับปริญญา แต่บุคคลเหล่านั้นกลับประสบความสำเร็จและสามารถสร้างความมั่งคั่ง มั่นคง ได้จากธุรกิจเครือข่าย แต่ในขณะเดียวผมก็ได้พบเห็นบุคคลทีไม่ประสบความสำเร็จอีกมากมายเช่นกัน สาเหตุอาจเกิดจากบางคนเข้าสู่ธุรกิจแบบไม่มีความรู้ หรือมีความรู้แต่ขาดความเข้าใจในระบบธุรกิจเครือข่ายอย่างถ่องแท้ พอเวลาเข้ามาทำจึงประสบกับความล้มเหลว ทำให้บางคนมีอคติทีไม่ดีต่อธุรกิจนี้ และมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อธุรกิจว่าหลอกลวง เสียเงินเสียเวลา แต่ในความเป็นจริงธุรกิจเครือข่ายนั้น กลับมีเสน่ห์ สวยงาม และมีความมหัศจรรย์อยู่ในตัวอย่างเต็มเปี่ยม

เพียงแต่ท่าน... พร้อมที่จะเปิดใจเรียนรู้อย่างจริงจังหรือไม่?

amprimalifetime.blogspot.com นี้ ถูกจัดทำขึ้นเพราะต้องการจะรวบรวมบทความ วิธีคิด หลักการ การทำธุรกิจเครือข่ายและประสบการณ์ความรู้ต่างๆจากผู้ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ เพื่อให้ผู้ที่กำลังทำธุรกิจเครือข่ายหรือผู้ที่กำลังมองหาในธุรกิจเครือข่าย ได้ศึกษาหาความรู้ ก่อนจะเข้าสู่อาณาจักรของธุรกิจ เพื่อนำไปประยุกต์หรือปฏิบัติให้เกิดความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องชัดเจน พร้อมกับการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่สนใจได้อย่างดีเยี่ยม เพื่อเป็นแนวทางการนำไปสู่เส้นชัยแห่งความสำเร็จในธุรกิจของท่านต่อไป....

...ด้วยความปรารถนาดี... ^_^

วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554

ทุกอย่างย่อมมีสิ่งดีกว่าเสมอ

เด็กตาบอดคนหนึ่งนั่งตรงขั้นบันได 
โดยวางหมวกไว้ข้างๆ และยกป้ายที่เขียนว่า " ผมตาบอดช่วยเหลือผมด้วย" ในหมวกใบนั้นมีเพียงเหรียญ อยู่นิดหน่อย มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา เขาหยิบมันออกจากกระเป๋าแล้วหย่อนลงในหมวก หลังจากนั้นชายคนนั้นก็หยิบป้ายขึ้นมา หมุนป้ายและเขียนคำบางคำลงไป เขาวางป้ายนั้นลงเพื่อให้คนที่ผ่านไปมาได้เห็น คำที่เขียนใหม่ ไม่นานนัก เหรียญในหมวกก็เริ่มเต็มมีคนจำนวนมากให้เงินเด็กตาบอดคนนั้น บ่ายวันนั้นเอง ชายคนนั้นกลับอีกครั้ง เพื่อมาดูว่าเด็กชายตาบอดเป็นอย่างไรบ้าง
เด็กตาบอดจำเสียงเดินของชายคนนั้นได้ จึงถามว่า : คุณคือคนที่เปลี่ยนคำพูดในป้ายของผมใช่ไหม คุณเขียนว่าอะไร ชายผู้นั้นบอกว่าฉันแค่เขียนความจริง ฉันเขียนในสิ่งที่คุณเขียนไว้แล้วแต่ในอีกรูปแบบหนึ่ง สิ่งที่ชายคนนั้นเขียนคือ " วันนี้เป็นวันที่สวยงาม แต่ฉันไม่สามารถมองเห็นมัน"


คุณคิดว่าข้อความป้ายครั้งแรก กับข้อความป้ายครั้งที่สองกล่าวถึงสิ่งเดียวกันหรือเปล่าแน่นอนป้ายทั้ง บอกผู้คนว่าเด็กเป็นคนตาบอด แต่ป้ายแรกบอกเพียงว่า ให้ผู้คนบริจาค เงินเพียงเล็กน้อยลงในหมวก ส่วนป้ายที่สองบอกว่า พวกเขาสามารถมีความสุขในวันที่สวยงามได้แต่เด็กชายคนนี้ไม่สามารถมีความสุขกับสิ่งนั้นได้ ้เพราะเขาตาบอดเราได้รับบทเรียนอย่างน้อยสองอย่างในเรื่องนี้



บทเรียนแรกคือ ขอให้คุณรู้สึกพอใจในสิ่งที่คุณมีเพราะยังมีคนอื่นที่มีน้อยกว่า จงช่วยเหลือผู้อื่นเท่าที่คุณที่สามารถจะช่วยได้ 


บทเรียนที่สองคือ มีความคิดสร้างสรรค์ มีความคิดใหม่ๆ คิดแง่บวกแค่คิดต่างจากคนอื่น และทุกอย่างย่อมมีสิ่งที่ดีกว่าอยู่เสมอ

ที่มา ธรรมจักรดอทเนต

รบกวน ติ-ช ม เพื่อนำไปปรับปรุงครับ