eXTReMe Tracker

คำนำ

ตลอดเวลาที่ผม ได้เข้าสู่ธุรกิจเครือข่าย ได้มีโอกาสเรียนรู้ถึงการสร้างระบบธุรกิจเครือข่าย ได้พบเจอบุคคลที่ประสบความสำเร็จมากมาย บางคนไม่มีประสบการณ์และจบการศึกษาถึงระดับปริญญา แต่บุคคลเหล่านั้นกลับประสบความสำเร็จและสามารถสร้างความมั่งคั่ง มั่นคง ได้จากธุรกิจเครือข่าย แต่ในขณะเดียวผมก็ได้พบเห็นบุคคลทีไม่ประสบความสำเร็จอีกมากมายเช่นกัน สาเหตุอาจเกิดจากบางคนเข้าสู่ธุรกิจแบบไม่มีความรู้ หรือมีความรู้แต่ขาดความเข้าใจในระบบธุรกิจเครือข่ายอย่างถ่องแท้ พอเวลาเข้ามาทำจึงประสบกับความล้มเหลว ทำให้บางคนมีอคติทีไม่ดีต่อธุรกิจนี้ และมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อธุรกิจว่าหลอกลวง เสียเงินเสียเวลา แต่ในความเป็นจริงธุรกิจเครือข่ายนั้น กลับมีเสน่ห์ สวยงาม และมีความมหัศจรรย์อยู่ในตัวอย่างเต็มเปี่ยม

เพียงแต่ท่าน... พร้อมที่จะเปิดใจเรียนรู้อย่างจริงจังหรือไม่?

amprimalifetime.blogspot.com นี้ ถูกจัดทำขึ้นเพราะต้องการจะรวบรวมบทความ วิธีคิด หลักการ การทำธุรกิจเครือข่ายและประสบการณ์ความรู้ต่างๆจากผู้ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ เพื่อให้ผู้ที่กำลังทำธุรกิจเครือข่ายหรือผู้ที่กำลังมองหาในธุรกิจเครือข่าย ได้ศึกษาหาความรู้ ก่อนจะเข้าสู่อาณาจักรของธุรกิจ เพื่อนำไปประยุกต์หรือปฏิบัติให้เกิดความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องชัดเจน พร้อมกับการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่สนใจได้อย่างดีเยี่ยม เพื่อเป็นแนวทางการนำไปสู่เส้นชัยแห่งความสำเร็จในธุรกิจของท่านต่อไป....

...ด้วยความปรารถนาดี... ^_^

วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2554

การตลาดต้องไม่ฝืน

ทุกคนรู้นะครับว่าเราทำธุรกิจกับคน ไม่ได้ทำธุรกิจกับลิงหรือกลับหมีแพนด้า ช้าง ม้า ที่ไหน เพราะฉะนั้น เราต้องเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ก่อนครับ มนุษย์เราเมื่อมีเหตุการณืเข้ามาให้ตัดสินใจ จะใช้ภาวะอารมณ์อยู่ 2 อย่างเป็นเครื่องมือช่วยในกการตัดสินใจอัตโนมัติ ภาวะแรกคืออารมณ์ด้านบวก ความรัก ความปิติ ความยินดี ความสำเร็จ ความสุข ภาวะที่สองคืออารมณ์ด้านลบ ความกลัว ความเกลียด ความเศร้า ความเจ็บ ความเครียด เมื่อมีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น มนุษย์จะหลีกเลี่ยงภาวะอารมณ์ด้านลบก่อนเสมอ เข้ามาในเรื่องธุรกิจเครือข่าย คนเราเลือกที่จะอยู่เฉยๆ แทนที่จะออกไป sponsor คน เพราะไม่อยากถูกปฏิเสธ เป็นต้น
เพราะฉะนั้นเราจึงต้องทำการตลาดที่เข้าใจมนุษย์ครับ มนุษย์เราข้อแรกครับ ไม่ชอบถูกขายการที่อยู่ดีๆเราเอาสินค้าที่ไม่ได้อยู่ในความต้องการของเขา ไปยัดเยียดขายเขา นั้นเป็นรรมดาครับ เขาผู้นั้นต้องป้องกันตัวเองทันที การตลาดฝืนๆแบบนี้ร้อยทั้งร้อยล้มไม่เป็นท่าครั ข้อที่สอง มนุษย์เราชอบซื้อ เอาง่ายๆ ถ้าคุณมีเงินสัก 100 ล้านบาท คุณมีรายการที่อยากจะซื้ออยู่บานตะเกียง ธรรมชาติของคนเราข้อที่สามนะครับ ไม่ชอบง้อคน การที่คุณใช้กลยุทธการตลาดแบบต้องโน้มน้าวใจคน พยายามสาธิตสินค้า พยายามปิดการขาย นั่นแหล่ะครับ คุณกำลังง้อคนอยู่เห็นภาพไหมครับวิธีแบบเดิมๆมันฝืนธรรมชาติแค่ไหน แล้วยังไงหล่ะที่ไม่ฝืนธรรมชาติ การตลาดที่ไม่ต้องง้อใครมันเป็นอย่างไร เราต้องเปลี่ยนครับ จากการโน้มน้าวใจคนอื่น เป็นการเสนอสิ่งที่เขาต้องการ ยกตัวอย่างนะครับ ถ้าคุณมีเนื้อสเต็กชั้นดีอยู่ชิ้นหนึ่งแต่คุณไปเสนอขายคนที่กินเจ ทั้งชาติเขาก็ไม่ซื้อครับ แต่ถ้าเรามีระบบคัดกรองคนที่ชอบทานเนื้อหล่ะ แล้วเรานำเสนอเนื้อชั้นดีนี้ให้กับกลุ่มนี้เท่านั้น เป็นคุณจะเลือกทำการตลาดแบบไหนครับ

สรุปเลยนะครับ การทำการตลาดแบบไม่ฝืนธรรมชาติสิ่งแรกเราต้องรู้กลุ่มเป้าหมายก่อนว่าคือใคร อย่างที่สองคือสินค้าหรือบริการเป็นที่ต้องการของกลุ่มเป้าหมายหรือไม่ สุดท้ายคือวิธีการที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
ถ้านำทั้งสามอย่างนี้ไปปรัใช้แล้ว รับรองครับว่าการที่ธุรกิจของคุณจะเติบโตขึ้นนั้น ไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติแน่นอน


ที่มา : internet

รบกวน ติ-ช ม เพื่อนำไปปรับปรุงครับ