หลีกเลี่ยงขนมขบเคี้ยวทุกชนิด
ถ้าสิ่งที่คุณกำลังจะรับประทานเป็นสิ่งที่หยิบง่าย หรือปรุงสำเร็จพร้อมรับประทาน ไม่ว่าจะเป็นขนมอบ
กรอบ หรือขนมปังกับดิปปิ้งซอส จงทิ้งมันไปเสียและเปลี่ยนใจไปทานอาหารที่มีประโยชน์แทนรับประทานอาหารที่โต๊ะทานข้าว ไม่ใช่หน้าทีวี หรือหน้าจอ
คอมพิวเตอร์ วิถีการดำรงชีวิตของคนในปัจจุบันทำให้การรับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันในครอบครัวเป็นสิ่งที่ดูเหมือนจะล้าสมัยไปแล้ว ชีวิตของคนยุคใหม่ส่วนมากจะฝากท้องไว้กับอาหารแช่แข็งและเตาไมโครเวฟ แต่ทว่าการรับประทานอาหารที่โต๊ะเป็นอะไรที่หรูหรากว่าและทำให้เราตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งที่เรารับประทานอีกด้วย ปล่อยให้จอคอมพิวเตอร์มองคุณด้วยความอิจฉาขณะที่คุณเดินไปที่โต๊ะเพื่อดื่มด่ำกับมื้ออาหาร จริงอยู่ว่าคุณต้องใช้เวลามากกว่าในการเตรียมและรับประทานอาหารแต่สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณรู้สึกว่าได้กลับมาบ้านจริงๆ
พยายามรับประทานอาหารกับคนอื่นถ้าเป็นไปได้
เวลาที่เราอยู่คนเดียวเรามักจะทานอาหารไปเรื่อยๆจนบางทีลืมไปว่าอาหารที่กินเข้าไปมากเกินกว่าปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน เช่นการกินช็อคโกแลตทั้งห่อคนเดียว แต่ถ้าเรารับประทานอาหารกับคนอื่นๆเราจะรับประทานอาหารช้าลงและควบคุมปริมาณอาหารที่ทานได้มากขึ้น
หลีกเลี่ยงอาหารขนาดจัมโบ้
บางทีเราก็รู้สึกหงุดหงิดที่ต้องซื้อข้าวโพดคั่วขนาดจัมโบ้ที่โรงหนังเพียงเพราะหวังส่วนลดหรือของแถม ทั้งที่จริงๆแล้วร่างกายของเราไม่ได้ต้องการทานอะไรมากมายขนาดนั้น ดังนั้นถ้าคุณอยากซื้อของขบเคี้ยวมาทานล่ะก้อ พยายามเลือกถุงขนมเล็กๆเข้าไว้ ถ้าห่อขนมมีขนาดใหญ่กว่าศีรษะคุณ อย่าซื้อเลยจะดีกว่า
ไม่ทานอาหารขณะเร่งรีบ
เพราะไม่อย่างนั้นคุณมีแนวโน้มแวะจะซื้อช็อคโกแลตหรืออาหารแช่แข็งที่ 7-eleven แทนที่จะเลือกทานอาหารดีๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
วางแผนมื้ออาหารล่วงหน้า
เช่น พรุ่งนี้เที่ยงจะทานอะไร หรือตอนบ่ายมีอะไรเป็นขนมสำหรับทานคู่กับชาร้อนๆของคุณ ถ้าคุณทำอย่างนี้ได้คุณจะไม่หยิบทุกอย่างที่คุณเห็นตรงหน้ามารับประทาน คุณควรหลีกเลี่ยงของขบเคี้ยวที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และไม่ทานมื้อดึก แล้วคุณจะพบว่าการมีรูปร่างดีไม่ได้ไกลเกินเอื้อม
ที่มาข้อมูล : วี สลิม บิวตี้ สปา (Vie Slim Beauty Spa)
ขอบคุณรูปพาพ churmung.com
กรอบ หรือขนมปังกับดิปปิ้งซอส จงทิ้งมันไปเสียและเปลี่ยนใจไปทานอาหารที่มีประโยชน์แทนรับประทานอาหารที่โต๊ะทานข้าว ไม่ใช่หน้าทีวี หรือหน้าจอ
คอมพิวเตอร์ วิถีการดำรงชีวิตของคนในปัจจุบันทำให้การรับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันในครอบครัวเป็นสิ่งที่ดูเหมือนจะล้าสมัยไปแล้ว ชีวิตของคนยุคใหม่ส่วนมากจะฝากท้องไว้กับอาหารแช่แข็งและเตาไมโครเวฟ แต่ทว่าการรับประทานอาหารที่โต๊ะเป็นอะไรที่หรูหรากว่าและทำให้เราตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งที่เรารับประทานอีกด้วย ปล่อยให้จอคอมพิวเตอร์มองคุณด้วยความอิจฉาขณะที่คุณเดินไปที่โต๊ะเพื่อดื่มด่ำกับมื้ออาหาร จริงอยู่ว่าคุณต้องใช้เวลามากกว่าในการเตรียมและรับประทานอาหารแต่สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณรู้สึกว่าได้กลับมาบ้านจริงๆ
พยายามรับประทานอาหารกับคนอื่นถ้าเป็นไปได้
เวลาที่เราอยู่คนเดียวเรามักจะทานอาหารไปเรื่อยๆจนบางทีลืมไปว่าอาหารที่กินเข้าไปมากเกินกว่าปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน เช่นการกินช็อคโกแลตทั้งห่อคนเดียว แต่ถ้าเรารับประทานอาหารกับคนอื่นๆเราจะรับประทานอาหารช้าลงและควบคุมปริมาณอาหารที่ทานได้มากขึ้น
หลีกเลี่ยงอาหารขนาดจัมโบ้
บางทีเราก็รู้สึกหงุดหงิดที่ต้องซื้อข้าวโพดคั่วขนาดจัมโบ้ที่โรงหนังเพียงเพราะหวังส่วนลดหรือของแถม ทั้งที่จริงๆแล้วร่างกายของเราไม่ได้ต้องการทานอะไรมากมายขนาดนั้น ดังนั้นถ้าคุณอยากซื้อของขบเคี้ยวมาทานล่ะก้อ พยายามเลือกถุงขนมเล็กๆเข้าไว้ ถ้าห่อขนมมีขนาดใหญ่กว่าศีรษะคุณ อย่าซื้อเลยจะดีกว่า
ไม่ทานอาหารขณะเร่งรีบ
เพราะไม่อย่างนั้นคุณมีแนวโน้มแวะจะซื้อช็อคโกแลตหรืออาหารแช่แข็งที่ 7-eleven แทนที่จะเลือกทานอาหารดีๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
วางแผนมื้ออาหารล่วงหน้า
เช่น พรุ่งนี้เที่ยงจะทานอะไร หรือตอนบ่ายมีอะไรเป็นขนมสำหรับทานคู่กับชาร้อนๆของคุณ ถ้าคุณทำอย่างนี้ได้คุณจะไม่หยิบทุกอย่างที่คุณเห็นตรงหน้ามารับประทาน คุณควรหลีกเลี่ยงของขบเคี้ยวที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และไม่ทานมื้อดึก แล้วคุณจะพบว่าการมีรูปร่างดีไม่ได้ไกลเกินเอื้อม
ที่มาข้อมูล : วี สลิม บิวตี้ สปา (Vie Slim Beauty Spa)
ขอบคุณรูปพาพ churmung.com