เริ่มต้นด้วยคำว่า Passive Income นั้นมันหมายความว่าอะไร?
ถ้าให้แปลตรงตัว Passive Income ก็คงแปลได้ว่า “รายได้เชิงรับ” เอาล่ะสิ ยิ่งแปลเป็นไทยยิ่ง “งง” กันเข้าไปใหญ่
ต้องแปลไทยเป็นไทยอีกซักรอบว่า รายได้เชิงรับก็คือ “รายได้ที่ไม่ได้มาจากการที่เราออกแรงทำงานโดยตรง” จินตนาการง่ายๆว่า ในวันใดที่เราไม่ได้ทำงานแล้ว แต่ยังมีเงินไหลเข้ากระเป๋าเราอยู่อย่างสม่ำเสมอ เงินก้อนนั้นแหละครับที่เราถือว่าเป็น Passive Income หรือ “รายได้เชิงรับ”
ข้อดีของมันละ มีอะไรบ้าง
สร้างอิสรภาพ — ข้อนี้ชัดเจนมาก เพราะเมื่อวันใดที่เรามีรายได้เชิงรับ หรือ Passive Income มากกว่ารายจ่ายในแต่ละวัน เมื่อนั้นเราก็บอกลางานประจำได้เลย เราจะมีเวลามากกว่าคนอื่นทันทีอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน แถมไม่ต้องตอกบัตรเช็คชื่อเข้าทำงานอีกด้วย มีเวลาให้เราได้ทำอะไรอีกเยอะ
เป็นแหล่งรายได้ใหม่ — ชีวิตเราเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ถึงแม้เราจะมีความสุขกับงานที่ทำอยู่ แต่ถ้า
วันใดเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ถูกไล่ออก หรือ ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ แต่ถ้าเรามีแหล่งรายได้จาก Passive Income อยู่ เราและคนในครอบครัวก็จะไม่เดือดร้อน
เป็นแหล่งรายได้ใหม่ — ชีวิตเราเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ถึงแม้เราจะมีความสุขกับงานที่ทำอยู่ แต่ถ้า
วันใดเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ถูกไล่ออก หรือ ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ แต่ถ้าเรามีแหล่งรายได้จาก Passive Income อยู่ เราและคนในครอบครัวก็จะไม่เดือดร้อน
เป็นแหล่งรายได้ที่ต่อเนื่อง – ไม่ว่าคุณจะรักงานประจำที่คุณทำขนาดไหน ซักวันหนึ่งคุณก็คงต้องหยุดทำ อาจเนื่องด้วยสาเหตุทางด้านอายุ และสุขภาพ เงินรายได้จากการทำงานก็จะต้องหดหายไปในที่สุด แต่ถ้าเรามี Passive Income คอยรองรับอยู่ เงินรายได้ตรงนี้จะยังคงไหลเข้าสู่กระเป๋าของคุณอย่างต่อเนื่อง แถมยังตกทอดเป็นมรดกให้คนใกล้ชิดได้อีกต่างหาก (เราไม่สามารถยกตำแหน่งงานในฐานะลูกจ้างให้ลูกหลานเราได้ ถูกต้องไหมครับ)
เอาละมาลองดูสิอะไรบ้างนะ ที่เราจะเรียกว่า Passive Income จริงๆอาจจะมีเยอะกว่านี้นะครับ เอาที่พอมองเห็นง่ายๆละกัน
1. ดอกเบี้ย — ข้อนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็น Passive Income รูปแบบที่ชัดเจนที่สุด ธรรมดาที่สุด เรียกได้ว่าธรรมดาจนเราแทบไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ คล้ายๆกับว่าเราไม่รู้ตัวว่ากำลังหายใจอยู่ยังไงยังงั้นเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ดอกเบี้ยก็ยังแยกย่อยไปหลายแบบหลายสไตล์ เช่น ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์, ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ, ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล หรือ ดอกเบี้ยหุ้นกู้บริษัทเอกชน เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดมีความเสี่ยงแตกต่างกัน แต่ทั้งหมดเป็น Passive Income เพราะเราจะได้รับรายได้เป็นดอกเบี้ยเข้ามาสม่ำเสมอไม่มีหยุด แม้เราจะไม่ได้ทำงานก็ตามนั่นเอง
2. กำไรจากการเป็นเจ้าของกิจการ — ข้อนี้ต้องขยายความเพิ่มเติมเล็กน้อย เนื่องจากคำว่า “เจ้าของกิจการ” กับ “ธุรกิจส่วนตัว” นั้นมีความแตกต่างกันที่เด่นชัด โดยวัดจากการที่ผู้เป็นเจ้าของธุรกิจจะต้องลงมือทำงานเองในธุรกิจของตนหรือ ไม่? ถ้าหากเจ้าของต้องลงมือทำงานเอง ไม่สามารถทิ้งธุรกิจของเขาไปได้เลย กำไรที่ได้ก็ไม่ถือว่าเป็น Passive Income แต่ถ้าหากเจ้าของธุรกิจไม่จำเป็นต้องอยู่เฝ้าและลงมือทำงานเอง แต่มีระบบและพนักงานคอยทำงานแทนให้ ผลกำไรที่เหลือมาจึงจะเรียกได้ว่าเป็น Passive Income นะครับ
3. ค่าเช่า — ไม่ว่าจะให้เช่าบ้าน, ที่ดิน, ห้องเช่า, คอนโด, อพาร์ทเมนท์, จักรยาน, รถยนต์ หรืออะไรก็แล้วแต่ ค่าเช่าที่ผู้เช่าจ่ายให้ก็ถือเป็น Passive Income อย่างหนึ่ง หลักสำคัญอยู่ที่เราจะต้องดูแลไม่ให้ตัวเองเสียเวลาไปกับกระบวนการเช่าและ การดูแลการเช่าเหล่านั้นมากจนมันเปลี่ยนรูปแบบจาก Passive Income กลายเป็น Active Income ไปอย่างไม่ตั้งใจ
4. ค่าคอมมิชชั่นต่างๆ — ส่วนใหญ่เราจะได้ค่าคอมมิชชั่นจากการเป็นพ่อค้าคนกลางในการขายสินค้าอย่างใด อย่างหนึ่ง รายได้ Passive Income จากค่าคอมมิชชั่นที่ชัดเจนที่สุดอันหนึ่งคือกลุ่มธุรกิจแบบ Affilate Marketing หรือ Aff ที่สมาชิกจะได้ค่าคอมมิชชั่นจากการซื้อสินค้าหรือบริการของบริษัท (แต่ก็ต้องหารูปแบบการทำงานด้วยนะครับ)
5. เงินปันผล – การลงทุนในบริษัทที่มีคุณภาพ มีความแข็งแกร่ง ที่ยินดีแบ่งผลกำไรออกมาในรูปเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น ถือเป็นการลงทุนที่สามารถสร้าง Passive Income ได้อย่างยั่งยืน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการพิจารณาเลือกบริษัทที่จะลงทุนอย่างรอบคอบ ว่าเป็นบริษัทที่แข็งแกร่งจริง และจ่ายเงินปันผลได้ชัวร์ ไม่มั่วนิ่มนั่นเอง
สัก 1 ชม.ต่อวัน เราลองมาคิดดูว่าจะทำอะไรเพื่อให้ได้ Passive Income กันดีกว่าครับ คิดแล้วทำ นำความสำเร็จ
เอาละมาลองดูสิอะไรบ้างนะ ที่เราจะเรียกว่า Passive Income จริงๆอาจจะมีเยอะกว่านี้นะครับ เอาที่พอมองเห็นง่ายๆละกัน
1. ดอกเบี้ย — ข้อนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็น Passive Income รูปแบบที่ชัดเจนที่สุด ธรรมดาที่สุด เรียกได้ว่าธรรมดาจนเราแทบไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ คล้ายๆกับว่าเราไม่รู้ตัวว่ากำลังหายใจอยู่ยังไงยังงั้นเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ดอกเบี้ยก็ยังแยกย่อยไปหลายแบบหลายสไตล์ เช่น ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์, ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ, ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล หรือ ดอกเบี้ยหุ้นกู้บริษัทเอกชน เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดมีความเสี่ยงแตกต่างกัน แต่ทั้งหมดเป็น Passive Income เพราะเราจะได้รับรายได้เป็นดอกเบี้ยเข้ามาสม่ำเสมอไม่มีหยุด แม้เราจะไม่ได้ทำงานก็ตามนั่นเอง
2. กำไรจากการเป็นเจ้าของกิจการ — ข้อนี้ต้องขยายความเพิ่มเติมเล็กน้อย เนื่องจากคำว่า “เจ้าของกิจการ” กับ “ธุรกิจส่วนตัว” นั้นมีความแตกต่างกันที่เด่นชัด โดยวัดจากการที่ผู้เป็นเจ้าของธุรกิจจะต้องลงมือทำงานเองในธุรกิจของตนหรือ ไม่? ถ้าหากเจ้าของต้องลงมือทำงานเอง ไม่สามารถทิ้งธุรกิจของเขาไปได้เลย กำไรที่ได้ก็ไม่ถือว่าเป็น Passive Income แต่ถ้าหากเจ้าของธุรกิจไม่จำเป็นต้องอยู่เฝ้าและลงมือทำงานเอง แต่มีระบบและพนักงานคอยทำงานแทนให้ ผลกำไรที่เหลือมาจึงจะเรียกได้ว่าเป็น Passive Income นะครับ
3. ค่าเช่า — ไม่ว่าจะให้เช่าบ้าน, ที่ดิน, ห้องเช่า, คอนโด, อพาร์ทเมนท์, จักรยาน, รถยนต์ หรืออะไรก็แล้วแต่ ค่าเช่าที่ผู้เช่าจ่ายให้ก็ถือเป็น Passive Income อย่างหนึ่ง หลักสำคัญอยู่ที่เราจะต้องดูแลไม่ให้ตัวเองเสียเวลาไปกับกระบวนการเช่าและ การดูแลการเช่าเหล่านั้นมากจนมันเปลี่ยนรูปแบบจาก Passive Income กลายเป็น Active Income ไปอย่างไม่ตั้งใจ
4. ค่าคอมมิชชั่นต่างๆ — ส่วนใหญ่เราจะได้ค่าคอมมิชชั่นจากการเป็นพ่อค้าคนกลางในการขายสินค้าอย่างใด อย่างหนึ่ง รายได้ Passive Income จากค่าคอมมิชชั่นที่ชัดเจนที่สุดอันหนึ่งคือกลุ่มธุรกิจแบบ Affilate Marketing หรือ Aff ที่สมาชิกจะได้ค่าคอมมิชชั่นจากการซื้อสินค้าหรือบริการของบริษัท (แต่ก็ต้องหารูปแบบการทำงานด้วยนะครับ)
5. เงินปันผล – การลงทุนในบริษัทที่มีคุณภาพ มีความแข็งแกร่ง ที่ยินดีแบ่งผลกำไรออกมาในรูปเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น ถือเป็นการลงทุนที่สามารถสร้าง Passive Income ได้อย่างยั่งยืน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการพิจารณาเลือกบริษัทที่จะลงทุนอย่างรอบคอบ ว่าเป็นบริษัทที่แข็งแกร่งจริง และจ่ายเงินปันผลได้ชัวร์ ไม่มั่วนิ่มนั่นเอง
สัก 1 ชม.ต่อวัน เราลองมาคิดดูว่าจะทำอะไรเพื่อให้ได้ Passive Income กันดีกว่าครับ คิดแล้วทำ นำความสำเร็จ
Tags : keyword,facebopok,google,attrction,aimstar, amway, business, mlm, network,sex,thaiflood,marketing, prima life time, freedom, monney, agel, smartlift, primafan, nipon, niponlive,niponfans, ธุรกิจ, เครือข่าย, เอ็มแอลเอ็ม, รายได้, สุขภาพ, ลดนำหนัก ,เงิน, ดี, ความสุข, อาชีพ, ยั่งยืน, มั่นคง,สวยงาม,สินค้า,ประโยชน์,ดี,เสริมอาหาร,สมาร์ ลิฟ,ขายตรง,ธุรกิจเครือข่าย,น้ำท่วม,จุดอ่อน,ธุรกิจ mlm,MLM.ALPHA NUMBER 1,neo life,amprima,amprimalifetime,สมุนไพร,orange,ตาบอด,โรคมือเท้าเปื่อย,Passive Income