" จริงๆแล้วต้องแยกคำว่าธุรกิจขายตรงและธุรกิจเครือข่าย ออกจากกัน
"เนื่องจาก ..... ธุรกิจขายตรง - จะเน้นไปที่การขายสินค้า,ทำยอด และ กำไรจากการขายปลีก ผู้ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ ส่วนใหญ่จะต้องเป็นนักขาย ส่วนธุรกิจเครือข่าย - ทิศทางจะตรงกันข้ามกับธุรกิจขายตรง โดยใช้การกระจายสินค้าคนละเล็กละน้อยเน้นที่การสร้างเครือข่ายผู้บริโภค โดยไม่เน้นให้แต่ละคนต้องทำ..... ยอดขายได้เยอะๆ
จริงๆแล้วธุรกิจเครือข่ายก็เป็นธุรกิจอีกระบบนึง ที่ใช้กลยุทธ์ทางการตลาด แตกต่างจากธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งทั่วไป โดยใช้การกระจายสินค้าจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคโดยตรง โดยที่ลดรายจ่ายเรื่องของค่าขนส่ง ค่าโฆษณา พ่อค้าคนกลาง...
จริงๆแล้วธุรกิจเครือข่ายก็เป็นธุรกิจอีกระบบนึง ที่ใช้กลยุทธ์ทางการตลาด แตกต่างจากธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งทั่วไป โดยใช้การกระจายสินค้าจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคโดยตรง โดยที่ลดรายจ่ายเรื่องของค่าขนส่ง ค่าโฆษณา พ่อค้าคนกลาง...
ซึ่งรายจ่ายในส่วนนั้น ก็นำมาปันผลให้กับนักธุรกิจ (หรือเรียกกันว่า นักธุรกิจอิสระ)ในประเทศที่เจริญแล้ว เช่น ญี่ปุ่น ก็มีบริษัทที่เปิดดำเนินการในลักษณะของธุรกิจเครือข่ายมากที่สุดในเอเชีย และในสหรัฐอเมริกา ก็ครองแชมป์ ที่มีบริษัทที่ดำเนินการในธุรกิจดังกล่าว มากที่สุดในโลก...
บริษัทชั้นนำทั่วโลก กำลังหันมานิยมใช้การตลาดระบบเครือข่ายมากขึ้น เพราะการตลาดระบบนี้สามารถกระจายสินค้าเข้าสู่ผู้บริโภค ได้มากและเร็วที่สุด
ด้วยลักษณะของความเป็น "หุ้นส่วน" ระหว่างนักธุรกิจอิสระและตัวบริษัทเครือข่าย เป็นไปในลักษณะพึ่งพาอาศัยกัน เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน บริษัทไม่มีความจำเป็นต้องสูญเสียงบประมาณไปกับการโฆษณา จ้างพรีเซนเตอร์ เพราะนักธุรกิจอิสระเหล่านี้ จะทำหน้าที่โฆษณาให้ในลักษณะ "ปากต่อปาก"และเงินที่บริษัทประหยัดไปหลายล้านบาทนั้นไปไหน? แน่นอนที่สุด บริษัทใช้เงินเหล่านั้น ในการจ่ายเป็นค่าคอมมิชชั่นให้กับนักธุรกิจอิสระ
ธุรกิจเครือข่ายไม่ใช่การรวยทางลัด เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ที่ใครก้าวเข้ามาในธุรกิจเครือข่าย แล้วจะประสบความสำเร็จไปได้ทุกคน ปัจจัยมันมีหลายอย่าง ไม่งั้นโลกใบนี้คงมีแต่คนหันมาทำธุรกิจเคือข่าย กันทั้งโลกไปแล้ว
คนที่ทำไม่สำเร็จ ก็จะบอกว่ามันไม่ดี แต่คนที่ทำสำเร็จก็จะบอกว่าดี
มันอยู่ที่คุณเลือก "ทีม" ด้วย ว่าเค้าสอนให้คุณทำงานแบบไหน ทำตัวเป็นแมลงสาปรึเปล่าสำหรับ คนที่เคยทำแล้วล้มเหลว ในตอนที่คุณทำธุรกิจเคือข่าย คุณมีเนื้องานมากแค่ไหน เพราะแน่นอนว่าคุณแนะนำ 10 คน คงไม่ได้สมัครทั้ง 10 คนแน่นอนในกรณีที่รายชื่อเพื่อนคุณ ไม่มีแล้ว upline หรือ ผู้แนะนำคุณ ได้แนะนำให้คุณทำอย่างไรบ้าง เค้ารู้จักระบบต่อรายชื่อ หรือการทำงานสายลึกมั๊ย
บางทีการไปอยู่ในทีมงานที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพมากพอ ก็เป็นเรื่องโชคร้ายที่สุด ของคนทำธุรกิจเครือข่าย เหมือนกัน
ในการเข้าประชุม คุณเสียเงินไปเข้าคนเดียว?? เทคนิคอย่างนึงของการสร้างให้องค์กรเติบโต คือ คุณต้องพาทีมงานเข้าที่ประชุมให้มากที่สุด พาทีมงานเข้าบรรยากาศคุณได้วางแผน และตั้งเป้าหมายประจำเดือน ทุกๆต้นเดือน และได้ซอยเป้าหมายย่อยเป็นรายสัปดาห์ แล้วรึยัง ?? คุณเคยมีการประเมินงาน ทุกๆสิ้นเดือนหรือไม่?? เพื่อวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็ง และนำไปปรับปรุงในเดือนถัดไป
เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ถ้าอยากประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ แล้วแค่สมัครมา ก็ได้แต่ติดสอยห้อยตาม upline ไปวันๆ โดยไม่มีเนื้องานเป็นของตัวเอง เพราะธุรกิจนี้ คือธุรกิจของคุณ ไม่ใช่ของ upline คุณคิดว่า กว่าคนๆนึงจะประสบความสำเร็จ ในธุรกิจ หรือ อาชีพการงานใดๆ ก็ตาม มันง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือรึเปล่า
ธรรมชาติคนที่เคยทำธุรกิจเครือข่าย ทำไม่สำเร็จ โทษ upline โทษธุรกิจ โทษบริษัท แต่ไม่เคยโทษตัวเองผมว่าไปโทษตัวธุรกิจนี่มันไม่ถูกหรอกครับ โทษตัวคนทำน่าจะถูกต้องกว่า เพราะตัวโมเดลของธุรกิจนี้ มันคือการทำให้คนที่ไม่เคยมีโอกาสอะไรในชีวิตเลย ได้มีโอกาส เพราะทุกคนจะเริ่มจาก 0 เท่ากันหมด ไม่ว่าจะรวย หรือจน โดยแต่ละคนก็ต้องดึงเอาศักยภาพของตัวเองมาใช้ เรียกได้ว่าวัดกันที่กึ๋น ใครมีศักยภาพในการพัฒนาตัวเอง และพัฒนาองค์กรมากกว่า คนนั้นแหละ ประสบความสำเร็จ โดยที่ไม่ต้องง้อวุฒิการศึกษา ไม่เกี่ยงเพศ ไม่เกี่ยงอายุ (แต่ตามกฏหมายสมัครได้ต้อง 18ขึ้นไป)
ผมมีตัวอย่างคน จบ ป.4 แต่มีรายได้ ครึ่งล้าน/เดือน จากการทำธุรกิจเครือข่าย เพียงปีกว่าๆ คุณคิดดูว่า คนคนจบ ป.4 ทำงานโรงงาน ผมมองมุมไหน ก็ยังไม่เห็นว่า ถ้าเค้าไม่เข้ามาทำธุรกิจเครือข่าย จะพอมีทางอื่นไหม ที่ทำให้เค้าประสบความสำเร็จในชีวิต ทำให้ครอบครัวอยู่ดี กินดีมาได้ จากที่ปากกัด ตีนถีบกับเงินเดือน 6,000กว่าบาท มาเป็นสิบๆปี
นี่แหละครับคือศักยภาพของธุรกิจเครือข่าย ทุกคนเริ่มต้นเท่ากันแน่นอนว่าธุรกิจทุกประเภท ย่อมมีคนทำสำเร็จ และล้มเหลว มันเป็นธรรมชาติธุรกิจอยู่แล้วต่อให้คุณไปซื้อเฟรนไชน์ บะหมี่เกี๊ยวชื่อดัง ที่คุณเห็นว่าเค้าขายดิบขายดี แต่พอคุณมาลองขายบ้าง กลับไม่ค่อยมีลูกค้า เพราะด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง คุณก็เจ๊งได้เหมือนกัน
ธุรกิจเครือข่ายมันไม่ได้เลวร้ายหรอกครับ เพียงแต่มุมมองของคนที่ทำสำเร็จ กับคนที่ทำไม่สำเร็จ จะแตกต่างกัน เป็นธรรมดา
บริษัทชั้นนำทั่วโลก กำลังหันมานิยมใช้การตลาดระบบเครือข่ายมากขึ้น เพราะการตลาดระบบนี้สามารถกระจายสินค้าเข้าสู่ผู้บริโภค ได้มากและเร็วที่สุด
ด้วยลักษณะของความเป็น "หุ้นส่วน" ระหว่างนักธุรกิจอิสระและตัวบริษัทเครือข่าย เป็นไปในลักษณะพึ่งพาอาศัยกัน เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน บริษัทไม่มีความจำเป็นต้องสูญเสียงบประมาณไปกับการโฆษณา จ้างพรีเซนเตอร์ เพราะนักธุรกิจอิสระเหล่านี้ จะทำหน้าที่โฆษณาให้ในลักษณะ "ปากต่อปาก"และเงินที่บริษัทประหยัดไปหลายล้านบาทนั้นไปไหน? แน่นอนที่สุด บริษัทใช้เงินเหล่านั้น ในการจ่ายเป็นค่าคอมมิชชั่นให้กับนักธุรกิจอิสระ
ธุรกิจเครือข่ายไม่ใช่การรวยทางลัด เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ที่ใครก้าวเข้ามาในธุรกิจเครือข่าย แล้วจะประสบความสำเร็จไปได้ทุกคน ปัจจัยมันมีหลายอย่าง ไม่งั้นโลกใบนี้คงมีแต่คนหันมาทำธุรกิจเคือข่าย กันทั้งโลกไปแล้ว
คนที่ทำไม่สำเร็จ ก็จะบอกว่ามันไม่ดี แต่คนที่ทำสำเร็จก็จะบอกว่าดี
มันอยู่ที่คุณเลือก "ทีม" ด้วย ว่าเค้าสอนให้คุณทำงานแบบไหน ทำตัวเป็นแมลงสาปรึเปล่าสำหรับ คนที่เคยทำแล้วล้มเหลว ในตอนที่คุณทำธุรกิจเคือข่าย คุณมีเนื้องานมากแค่ไหน เพราะแน่นอนว่าคุณแนะนำ 10 คน คงไม่ได้สมัครทั้ง 10 คนแน่นอนในกรณีที่รายชื่อเพื่อนคุณ ไม่มีแล้ว upline หรือ ผู้แนะนำคุณ ได้แนะนำให้คุณทำอย่างไรบ้าง เค้ารู้จักระบบต่อรายชื่อ หรือการทำงานสายลึกมั๊ย
บางทีการไปอยู่ในทีมงานที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพมากพอ ก็เป็นเรื่องโชคร้ายที่สุด ของคนทำธุรกิจเครือข่าย เหมือนกัน
ในการเข้าประชุม คุณเสียเงินไปเข้าคนเดียว?? เทคนิคอย่างนึงของการสร้างให้องค์กรเติบโต คือ คุณต้องพาทีมงานเข้าที่ประชุมให้มากที่สุด พาทีมงานเข้าบรรยากาศคุณได้วางแผน และตั้งเป้าหมายประจำเดือน ทุกๆต้นเดือน และได้ซอยเป้าหมายย่อยเป็นรายสัปดาห์ แล้วรึยัง ?? คุณเคยมีการประเมินงาน ทุกๆสิ้นเดือนหรือไม่?? เพื่อวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็ง และนำไปปรับปรุงในเดือนถัดไป
เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ถ้าอยากประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ แล้วแค่สมัครมา ก็ได้แต่ติดสอยห้อยตาม upline ไปวันๆ โดยไม่มีเนื้องานเป็นของตัวเอง เพราะธุรกิจนี้ คือธุรกิจของคุณ ไม่ใช่ของ upline คุณคิดว่า กว่าคนๆนึงจะประสบความสำเร็จ ในธุรกิจ หรือ อาชีพการงานใดๆ ก็ตาม มันง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือรึเปล่า
ธรรมชาติคนที่เคยทำธุรกิจเครือข่าย ทำไม่สำเร็จ โทษ upline โทษธุรกิจ โทษบริษัท แต่ไม่เคยโทษตัวเองผมว่าไปโทษตัวธุรกิจนี่มันไม่ถูกหรอกครับ โทษตัวคนทำน่าจะถูกต้องกว่า เพราะตัวโมเดลของธุรกิจนี้ มันคือการทำให้คนที่ไม่เคยมีโอกาสอะไรในชีวิตเลย ได้มีโอกาส เพราะทุกคนจะเริ่มจาก 0 เท่ากันหมด ไม่ว่าจะรวย หรือจน โดยแต่ละคนก็ต้องดึงเอาศักยภาพของตัวเองมาใช้ เรียกได้ว่าวัดกันที่กึ๋น ใครมีศักยภาพในการพัฒนาตัวเอง และพัฒนาองค์กรมากกว่า คนนั้นแหละ ประสบความสำเร็จ โดยที่ไม่ต้องง้อวุฒิการศึกษา ไม่เกี่ยงเพศ ไม่เกี่ยงอายุ (แต่ตามกฏหมายสมัครได้ต้อง 18ขึ้นไป)
ผมมีตัวอย่างคน จบ ป.4 แต่มีรายได้ ครึ่งล้าน/เดือน จากการทำธุรกิจเครือข่าย เพียงปีกว่าๆ คุณคิดดูว่า คนคนจบ ป.4 ทำงานโรงงาน ผมมองมุมไหน ก็ยังไม่เห็นว่า ถ้าเค้าไม่เข้ามาทำธุรกิจเครือข่าย จะพอมีทางอื่นไหม ที่ทำให้เค้าประสบความสำเร็จในชีวิต ทำให้ครอบครัวอยู่ดี กินดีมาได้ จากที่ปากกัด ตีนถีบกับเงินเดือน 6,000กว่าบาท มาเป็นสิบๆปี
นี่แหละครับคือศักยภาพของธุรกิจเครือข่าย ทุกคนเริ่มต้นเท่ากันแน่นอนว่าธุรกิจทุกประเภท ย่อมมีคนทำสำเร็จ และล้มเหลว มันเป็นธรรมชาติธุรกิจอยู่แล้วต่อให้คุณไปซื้อเฟรนไชน์ บะหมี่เกี๊ยวชื่อดัง ที่คุณเห็นว่าเค้าขายดิบขายดี แต่พอคุณมาลองขายบ้าง กลับไม่ค่อยมีลูกค้า เพราะด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง คุณก็เจ๊งได้เหมือนกัน
ธุรกิจเครือข่ายมันไม่ได้เลวร้ายหรอกครับ เพียงแต่มุมมองของคนที่ทำสำเร็จ กับคนที่ทำไม่สำเร็จ จะแตกต่างกัน เป็นธรรมดา
ที่มา : นิรนาม
http://primafan.tk
Tags : facebopok,google,attrction,aimstar, amway, business, mlm, network, marketing, prima life time, freedom, monney, agel, smartlift, primafan, nipon, niponlive,niponfans, ธุรกิจ, เครือข่าย, เอ็มแอลเอ็ม, รายได้, สุขภาพ, ลดนำหนัก ,เงิน, ดี, ความสุข, อาชีพ, ยั่งยืน, มั่นคง,สวยงาม,สินค้า,ประโยชน์,ดี,เสริมอาหาร,สมาร์ ลิฟ,
http://primafan.tk
Tags : facebopok,google,attrction,aimstar, amway, business, mlm, network, marketing, prima life time, freedom, monney, agel, smartlift, primafan, nipon, niponlive,niponfans, ธุรกิจ, เครือข่าย, เอ็มแอลเอ็ม, รายได้, สุขภาพ, ลดนำหนัก ,เงิน, ดี, ความสุข, อาชีพ, ยั่งยืน, มั่นคง,สวยงาม,สินค้า,ประโยชน์,ดี,เสริมอาหาร,สมาร์ ลิฟ,
ขายตรง,ธุรกิจเครือข่าย